วันพฤหัสบดีที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2560

วิธีลดความเครียด


วันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2553


วิธีลดความเครียด ดนตรีบำบัด ลดความเครียดด้วยเสียงเพลง

ความเครียดเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สุขภาพของเราลดลง ทำให้เราแก่ตัวเร็วขึ้น วันนี้จะเสนอวิธีดนตรีบำบัด เพื่อเป็นอีกหนทางหนึ่งที่ช่วยละความเครียด และเป็นการชะลอความแก่ และ ดูแลสุขภาพด้วยตนเองง่ายๆ



ฟัง เสียงดนตรีคึกคักใจเราก็อยากเต้นตาม แต่พอเป็นจังหวะสบายๆ เราก็เริ่มรู้สึกผ่อนคลาย อย่างกับว่าจังหวะและเสียงนั้นสั่งใจเราได้ก็ไม่ผิดนัก


ด้วย เหตุนี้เอง คนยุคใหม่เลยนำความมหัศจรรย์ของดนตรีมาใช้กับการบำบัดความเครียด นอกเหนือจากการฟังเพลงทั่วๆ ไปแล้วรู้สึกดี ซึ่งจะว่าไปแล้ว ดนตรีไม่ได้เกิดจากจินตนาการในการจับโน่นผสมนี่ของตัวโน้ตอย่างที่เราคิด แต่เป็นการเรียบเรียงที่เป็นแบบแผน และมีโครงสร้างที่สามารถอธิบายในแนวทางวิทยาศาสตร์ได้ ดนตรีจึงสามารถสร้างขึ้นเพื่อนำมาบำบัดมความรู้สึก และอารมณ์เราได้อย่างน่าเชื่อถือ

ดนตรี เป็นสื่อภาษาสากลที่ไม่ว่าคนชาติไหนๆ ก็เข้าใจเนื้อดนตรีเดียวกัน ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันได้ ดนตรีจึงสามารถใช้สื่อสารได้กับคนทั้งโลก รวมทั้งการนำมารักษาโรคได้กับทุกๆ คน ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ หรือคนที่ผิดปกติทางอารมณ์

ตั้งแต่อดีตมาแล้วที่เรารู้จักดนตรี และยังพบว่ามันมีพลังมหาศาลนารรักษาโรค อย่างคนธิเบตก็ใช้วิธีการเคาะระฆัง เคาะชาม และใช้เสียงสวดมนต์ในพิธีกรรม ที่เชื่อด้วยว่าจะช่วยปรับสมดุลใจของเรา คนไทยเราเองก็ใช้การสวดมนต์ ที่นอกเหนือจากเรื่องศาสนาแล้ว ก็ยังเป็นคลื่นเสียงที่ช่วยสงบจิตใจเราให้นิ่งขึ้น

นี่ล่ะที่เป็นเหตุผลที่ว่า เวลาเราซึมเซา อยากกระฉับเฉง แค่เปิดดนตรีฟังสนุกเราก็ตื่นตัวขึ้นมาได้ง่ายๆ แล้ว ดนตรีจึงมีพลังกับเราไม่น้อยเลย และยังสามารถนำมาจัดการกับความเครียดได้ด้วย เพราะหากเราได้ฟังดนตรีจังหวะผ่อนคลาย การทำงานของสมองเราจะตอบสนองตาม และร่างกายของเราจะเปลี่ยนไป เช่น หายใจเรียบขึ้น หัวใจเต้นช้าลง ความดันเลือกปกติ ม่านตาหดลง กล้ามเนื้อก็ไม่ตึงเกร็ง ผลดีเหล่านี้ทำให้เราศึกษาการใช้ดนตรีมาบำบัดความเครียดกันมากขึ้นเรื่อยๆ และยังรักษาร่างกายที่เจ็บป่วยได้อีกด้วย

ประโยชน์ดนตรีบำบัด

• ลดความวิตกกังวลได้ เพียง เราฟังดนตรีจังหวะช้าๆ ผ่อนคลาย พลางหลับตาจินตนาการภาพที่เรารู้สึกดี เราก็จะลดความตึงเกร็งของร่างกายทุกส่วนลง และยังปรับสมดุลใจเราให้เป็นปกติ

• เพิ่มภูมิคุ้มกันได้ เพราะเมื่อร่างกายสงบ การไหลเวียนเลือดเป็นปกติ การหายใจผ่อนคลาย และความเจ็บปวดลดลง ร่างกายก็จะตอบสนองเป็นจิตใจที่ดี มีภูมิคุ้มกันยามเจ็บป่วย

• เพิ่มทักษะการสื่อสาร คนที่สื่อสารติดขัด ดนตรียังช่วยปรับคลื่นเราสมองเราให้เป็นปกติ ทำให้เราเรียบเรียงความคิดและการสื่อสารออกไปดีขึ้นได้ รวมทั้งการแสดงออกของเราด้วย

• ทำให้เรามั่นใจขึ้น การขาดความมั่นใจในตัวเองก็เป็นปัญหาทางจิตใจอย่างหนึ่ง แต่หากเราได้บำบัดเป็นกลุ่ม ได้ร้องเพลงร่วมกัน ได้เต้นรำไปด้วย ก็มีการพบว่าเราจะให้ความสำคัญกับตัวเรามากขึ้น มั่นใจในการแสดงออกขึ้น

• เยียวยาบำบัดโรค โรค ในที่นี้มีทั้งโรคทางร่างกาย และโรคทางจิต มีการนำดนตรีมารักษาอย่างจริงๆ จังๆ แล้วมากมาย แล้วพบว่าช่วยให้คนไข้เคลื่อนไหวและควบคุมตัวเองดีขึ้น ลดการแสดงออกที่ไม่เหมาะสม แก้ปมในใจ และยังสร้างเสริมอารมณ์เชิงบวกได้เป็นอย่างดี

หรือลองมาบำบัดอารมณ์ให้สดใส ด้วยการฝึกใช้ดนตรีให้เป็นประโยชน์ตามนี้

วิธีการบำบัดความเครียดด้วยดนตรี1. เลือกดนตรีที่เรารู้สึกดี ฟังสบาย อาจเป็นทำนองหรือมีเนื้อร้องก็ได้ แต่เหมาะกับอารมณ์ในเวลานั้น เช่น ดนตรีบำบัดเครียด หรือดนตรีเพิ่มความตื่นตัว เป็นต้น

2. เอนหลังไปกับที่นอนหรือเก้าอี้นุ่มๆ ปรับอุณหภูมิหรือห่มผ้าให้อุ่นสบาย

3. เปิดดนตรีฟังสัก 10 – 15 ที หลับตาจินตนาการถึงความรู้สึกดีๆ หรือภาพที่เราประทับใจน้ำ

4. อาจเพิ่มการจุดเทียนหอม หรือเหยาะน้ำมันหอมระเหยเพื่อปรับบรรยากาศห้องเพิ่มก็ได้

cr: http://thaiwellness.blogspot.com/2010/07/blog-post_19.html
cr:

เรียนในต่างประเทศ

เรียนในต่างประเทศ : ก่อนเดินทาง

10 เคล็ดลับ เรียนภาษาต่างประเทศให้ได้ผล

13332
10 เคล็ดลับ เรียนภาษาต่างประเทศให้ได้ผล
      เนื่องด้วยปัจจุบันโลกได้เปลี่ยนแปลงไปมาก ส่งผลไปถึงความต้องการในตลาดแรงงานที่เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย นั่นก็คือ เต็มไปด้วยการแข่งขันสูง ทั้งในเรื่องความสามารถและในเรื่องของทักษะ โดยเฉพาะผู้ที่มีความสามารถทางภาษาและจบการศึกษาในต่างประเทศ
      และนี่ คือ เคล็ดลับง่าย ๆ ที่จะทำให้การเรียนภาษาต่างประเทศให้ได้ผล เพื่อความสำเร็จในระดับนานาชาติ
1.ทุกอย่างย่อมมีการเริ่มต้น
          ไม่มีใครพูดภาษาที่สองได้ตั้งแต่เกิด ทุกคนต้องใช้เวลาในการเรียนรู้กันทั้งนั้น ฉะนั้นอย่าคาดหวังว่าจะต้องเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่เริ่มต้น
2.พยายามเรียนรู้
          จากการศึกษาพบว่า การทบทวนเป็นระยะเวลาสั้นๆ เช่น ในระหว่างทานอาหารเช้า ในขณะอาบน้ำ หรือในขณะเดินทาง จะส่งผลให้คุณจดจำได้ดีกว่า
3.ต้องท่องศัพท์
          ยิ่งคุณรู้ศัพท์มากเท่าไหร่ คุณก็สามารถพูดและเข้าใจได้มากขึ้นเท่านั้น เทคนิคในการจดจำคำศัพท์ คือ พกการ์ดใบเล็กๆที่เขียนคำศัพท์ (ที่มีคำแปลอยู่ด้านหลัง) ไปกับคุณทุกที่
4.ฝึกฝนอย่างจริงจัง 
          อย่าแค่ทำปากขมุบขมิบหรือท่องเอาไว้ใสใจ พูดหรืออ่านออกมาดังๆในทุกครั้งที่มีโอกาส เพื่อจะได้ฝึกให้เคยชินกับการออกเสียงที่ถูกต้อง
5.ขยันทำการบ้าน
          การทำการบ้านคือการฝึกฝนทักษะการใช้ภาษาให้เป็นไปอย่างแม่นยำ จนกลายเป็นความชำนาญ และสามารถทำออกมาได้ด้วยตัวเองในที่สุด
6. จับกลุ่มกับเพื่อน
          หาเวลาทบทวน ทำการบ้าน หรือแค่ฝึกพูดภาษานั้นๆกับเพื่อนๆเป็นประจำ ซึ่งจะช่วยแก้ไขข้อบกพร่องให้กันและกันได้ แถมยังทำคุณจดจำได้แม่นยำยิ่งขึ้นด้วย
7.หาจุดอ่อนของตัวเอง
          คุณควรหาจุดอ่อนในการเรียนของตัวเองให้เจอ เพื่อที่จะได้เพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้ เช่น ถ้าคุณเป็นคนเงียบๆ และไม่ค่อยมีส่วนร่วมในชั้นเรียน ก็บังคับตัวเองให้เลือกที่นั่งแถวหน้าในห้องเรียนซะ
8. หาโอกาสในการใช้ภาษา
          เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับภาษานั้นๆ ให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยกับเจ้าของภาษาเช่าหนังที่พูดภาษานั้นๆ มาดูหรือแม้กระทั่งหาแฟนที่เป็นเจ้าของภาษานั้นซะเลย
9. ทุ่มเทความสนใจ
          พูดง่ายๆ ก็คือ หายใจเข้าออกก็ให้เป็นภาษานั้น เรียนรู้ภาษานั้นๆ ทั้งในและนอกห้องเรียนอย่างจริงจังและเต็มที่ถึงขนาดถึงขนาดถ้าฝันได้ก็อาจฝันเป็นภาษานั้นๆ ด้วย
10. ปรึกษาผู้รู้หรืออาจารย์
          ถ้ามีปัญหาหรือติดขัดอะไร ก็ต้องสอบถามครูผู้สอนหรือเจ้าของภาษานั้นทันที เพื่อทำลายกำแพงที่เป็นอุปสรรคในการเรียนออกไปให้เร็วที่สุด คุณจะได้ไม่ต้องสะดุดอยู่นานเกินไปซึ่งนั้นอาจทำให้คุณเกิดความเบื่อหน่ายได้
---------------------------------
ข้อมูลที่น่าสนใจเพิ่มเติม
cr:https://www.hotcourses.in.th/study-abroad-info/before-you-leave/tips-to-succeed-in-foreign-languages/

การท่องเที่ยว

ถ้ารักเที่ยว..รักงานบริการ..ต้องเรียนการท่องเที่ยว
สาขาที่เรียน.. เรียนยังไง.. เรียนอะไรบ้าง?
การเรียนสาขาการท่องเที่ยว  จริงๆแล้วจะเน้นภาคปฏิบัติมากกว่าการเรียนอยู่ในห้อง  เพราะว่าประเทศไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมากมาย  รายละเอียดของสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่เยอะมาก (นั่นแหละ ตัวยากเลย)  ไปออกทริปแต่ละครั้งก็มีจะฝึก และทดสอบการเป็นมัคคุเทศก์  ส่วนภาคทฤษฎีก็จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการมีใจรักในงานบริการ (Service mind  เพราะเรียนท่องเที่ยวไม่ได้จบไปทำงานในออฟฟิศ ต้องออกนอกสถานที่ตลอด  เจอผู้คนมากมายหลายแบบ การมีใจรักในงานบริการ (Service mind) ถือเป็นหัวใจสำคัญในการเรียนท่องเที่ยวเลยทีเดียว และมีการเรียนการสอนการท่องเที่ยวในลักษณะต่างๆ ที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้ เช่น  ทัวร์เพื่อสุขภาพ  ทัวร์แบบทัศนศึกษา และทัวร์กีฬา เช่น กีฬากอล์ฟ เป็นต้น           ในการเรียนท่องเที่ยว  แน่นอนว่า  จะต้องเน้นเรื่องภาษา  โดยเฉพาะภาษาอังกฤษที่เป็นภาษาสากล  และยังต้องมีภาษาที่สามอีก  เช่น ภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น  มีการเดินทางทั้งในและต่างประเทศ ไม่ว่าจะโดยทางรถยนต์  ทางเครื่องบิน ดังนั้นมัคคุเทศก์ควรจำคำศัพท์ต่างๆ ที่จำเป็นในการเดินทาง เช่น จุดบริการต่าง ๆ ในสนามบิน  แผนกบริการในโรงแรม เพื่อแนะนำและบริการให้กับนักท่องเที่ยว  ดังนั้นการเรียนท่องเที่ยวก็จะได้เรียนทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฎิบัติ  ได้ออกทริปไปตามสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญต่าง ๆ ฝึกการเป็นมัคคุเทศก์  ไปดูงานที่โรงแรม และฝึกงานเสมือนว่าเราเป็นพนักงานของบริษัทจริง ๆ ซึ่งเป็นอะไรที่แปลกใหม่ สร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ตัวเราเองอีกด้วย
มีคนถามว่าสาขาที่เรียนเอาไปใช้ทำอะไรได้บ้าง?
การเรียนสาขาวิชาการท่องเที่ยว  หลายๆคนคิดว่าจบไปแล้ว  ก็ไปเป็นมัคคุเทศก์อาชีพเดียว จริง ๆ และมีอีกหลายอาชีพที่เราสามารถทำได้  เช่น อาชีพเกี่ยวกับสายการบิน โรงแรม รีสอร์ท หรืองานที่อยู่ในหน่วยงานราชการ เช่น ตำรวจท่องเที่ยว เป็นต้น
บอกเคล็ดลับการเรียนในสาขานี้อย่างคนมีใจรัก
เรียนสาขาวิชาการท่องเที่ยวอย่างคนมีใจรัก  สาขาวิชานี้เน้นเรื่องของการเที่ยว  ดังนั้นผู้ที่เรียนจึงต้องมีพื้นฐานในการชอบท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ  ชอบเดินทางไปในสถานที่ต่าง ๆ ชอบพูดคุย พบปะผู้คน และที่สำคัญ คือ มีใจรักการบริการ(Service mind  ส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง  สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ในระหว่างเรียน  เช่น  ภาษา ความกล้าแสดงออก  ปฎิภาณไหวพริบ  ซึ่งเราสามารถทำได้ไม่ยากอย่างที่คิดเลย 
อยากบอกน้องๆ ที่จะเลือกคณะนี้ว่า??
น้องๆที่อยากจะเรียนท่องเที่ยว ขอบอกตรงๆเลยว่า เราแทบจะเป็นหนึ่งในไม่กี่คนเลยที่เลือกเรียนท่องเที่ยวเพราะใจรัก ส่วนมากพอเวลาใครถามทำไมถึงเรียนท่องเที่ยว ก็ตอบว่าเพราะชอบเที่ยว จบ เที่ยวไหน เที่ยวอะไร เที่ยวตามผับ ตามเทค ไม่ใช่ ถึงนั่นจะเป็นหนึ่งในการท่องเที่ยว แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่หัวใจสำคัญของการท่องเที่ยว มีอีกหลายคนที่พูดว่า เรียนท่องเที่ยวเพราะคิดว่าง่ายที่สุด ไปๆมาๆต้องมานั่งเรียนภาษาอังกฤษที่เกลียดมาก มันไม่ใช่เลยท่องเที่ยวไม่ใช่สาขาวิชาที่ห่วยอย่างที่หลายคนเข้าใจ จริงๆแล้วการจะเรียนอะไรมันก็ไม่ใช่ว่าจะเก่งกว่า หรือห่วยกว่า ทุกสาขาวิชามีความสำคัญทั้งนั้น แตกต่างกันไปตามเนื้อหาและการนำไปปฏิบัติ ใครที่คิดจะเรียนท่องเที่ยวเพราะคิดว่ามันง่ายที่สุดขอให้คิดใหม่ทำใหม่ได้เลย มันไม่ใช่อย่างงั้นแน่นอน แต่ถ้าใครอยากเรียนเพราะสนใจจริงๆ ชอบจริงๆ อันนั้นแหละถึงจะสนับสนุน
แล้วทำไหมต้องเรียนการท่องเที่ยวที่โยนก?
เรียนท่องเที่ยวที่มหาวิทยาลัยโยนก  เน้นการเรียนการสอนที่ให้นักศึกษาทุกคนได้เรียนและฝึกปฏิบัติจริง มหาวิทยาลัยโยนกได้ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยผลิตมัคคุเทศก์สู่ภาคการท่องเที่ยว  เมื่อนักศึกษาสำเร็จการศึกษา  สามารถนำใบแสดงผลการเรียนไปยื่นที่สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อขอบัตรประจำตัวมัคคุเทศก์ทั่วไป  นำมาประกอบอาชีพได้เลย    และขณะที่เรียนอยู่นักศึกษาจะได้ออกทริปท่องเที่ยวตามเส้นทางที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศได้กำหนด  จำนวน 8 เส้นทางทั่วประเทศ  นอกจากนี้นักศึกษายังมีโอกาสที่จะได้ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ และได้ไปฝึกงานที่ต่างประเทศ  อย่างเช่นรุ่นพี่ของเราที่ได้ไปฝึกงานที่ประเทศจีนด้วย
วันนี้มีทริปที่น่าสนใจ สนุกมากมาย จากการเรียนท่องเที่ยวที่โยนกมาฝากกัน
ล่องแพอย่างสนุกสนานที่อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่
ท่องเที่ยวตื่นตาตื่นใจกับดอกบัวตองที่สวยงามที่ดอยแม่อูคอที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน

ทริปนี้ได้ดำน้ำที่หมู่เกาะเสม็ดอย่างสนุก มีอะไรมากมายให้ทุกคนได้ตื่นตาตื่นใจกับโลกใต้น้ำกัน จนไม่มีคนที่จะอยากขึ้นมาเลย

cr:  https://blog.eduzones.com/yonok/46480

วิธีออกกําลังเพิ่มความสูงแบบง่าย ๆ สำหรับผู้ชาย

วิธีออกกําลังเพิ่มความสูงแบบง่าย ๆ สำหรับผู้ชายที่อยากมีหุ่นน่ามอง

วิธีเพิ่มความสูง
          10 ท่าออกกำลังกายที่อาจช่วยเพิ่มความสูงให้คุณผู้ชายที่อยากหุ่นดี ด้วยวิธีง่าย ๆ

          แม้ว่าใครหลายคนจะอยู่ในช่วงอายุที่ความสูงเพิ่มขึ้นได้ยากหรือร่างกายหยุดเจริญเติบโตแล้ว ทว่าลึก ๆ แล้วก็ยังอยากเพิ่มความสูงให้กับตัวเองอยู่ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะมีวิธีไหนที่จะช่วยได้บ้างโดยที่ไม่ต้องผ่าตัดหรือศัลยกรรม ซึ่งจริง ๆ แล้วอาจยังพอมีหวังอยู่บ้างด้วยการออกกำลังกาย ดังนั้นเราจึงรวบรวมวิธีออกกำลังที่ช่วยเพิ่มความสูงมาแนะนำกันด้วย เอ้า ! เราไปดูพร้อม ๆ กันเลยว่ามีวิธีไหนบ้าง

           Pelvic Shift

วิธีเพิ่มความสูง


วิธีออกกําลังเพิ่มความสูงแบบง่าย ๆ สำหรับผู้ชายที่อยากมีหุ่นน่ามอง (1/10)
          จัดท่าเตรียมสำหรับท่า Pelvic Shift ด้วยการนอนราบลงที่พื้นหรือแผ่นรองออกกำลัง โดยวางแขนไว้ด้านข้างลำตัวและตั้งเข่าให้ชัน เมื่อพร้อมแล้วให้ออกแรงที่หน้าท้องพร้อมกับยกตัวขึ้นเหนือพื้น ทำค้างไว้ประมาณ 20-30 วินาที ซึ่งท่านี้จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อหน้าท้อง หลัง และต้นขาได้ดี

           Rope Skipping

วิธีเพิ่มความสูง


วิธีออกกําลังเพิ่มความสูงแบบง่าย ๆ สำหรับผู้ชายที่อยากมีหุ่นน่ามอง (2/10)
          ท่ากระโดดเชือกไม่เพียงแค่ช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกายได้ดีแล้ว ทว่ายังช่วยยืดกล้ามเนื้อขาได้มีประสิทธิภาพอีกด้วย เริ่มจากยืนตัวตรงเท้าชิด พร้อมใช้มือทั้งสองข้างจับด้ามเชือกไว้ให้มั่น จากนั้นก็กระโดดเชือกตามปกติ โดยไม่จำเป็นต้องกระโดดสูงเกินไป แค่กระโดดให้เท้าลอยเหนือพื้นเล็กน้อยเท่านั้น

           Touch Toes

วิธีเพิ่มความสูง


วิธีออกกําลังเพิ่มความสูงแบบง่าย ๆ สำหรับผู้ชายที่อยากมีหุ่นน่ามอง (3/10)
          การฝึกท่า Touch Toes สามารถช่วยบริหารแผ่นหลังให้แข็งแรงไปพร้อมกับการยืดกล้ามเนื้อช่วงลำตัว เริ่มฝึกท่านี้ด้วยการยืนตัวตรงให้เท้าห่างกันเล็กน้อย เหยียดแขนทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะจนสุด จากนั้นค่อย ๆ โน้มตัวลงจนปลายนิ้วสัมผัสเท้า แล้วค้างไว้ 3 วินาที จึงกลับท่าเตรียม โดยที่แขนและขาต้องเหยียดตรงตลอดเวลา 

           Cobra Stretch

วิธีเพิ่มความสูง


วิธีออกกําลังเพิ่มความสูงแบบง่าย ๆ สำหรับผู้ชายที่อยากมีหุ่นน่ามอง (4/10)
          จัดท่าเตรียมสำหรับท่า Cobra Stretch ด้วยการนอนคว่ำหน้าลงที่พื้น โดยให้เท้าแยกห่างจากกันเล็กน้อย จัดข้อศอกให้อยู่แนบลำตัวและวางมือทั้งสองข้างไว้ระดับไหล่ จากนั้นให้เคลื่อนลำตัวช่วงบนขึ้นจนสุดและค้างไว้ประมาณ 20 วินาที ก็จะช่วยเสริมความแข็งแรงให้หน้าอกไปพร้อม ๆ กับยืดแผ่นหลังได้แล้ว

           Forward Spine Stretch

วิธีเพิ่มความสูง


วิธีออกกําลังเพิ่มความสูงแบบง่าย ๆ สำหรับผู้ชายที่อยากมีหุ่นน่ามอง (5/10)
          เริ่มฝึกท่านี้ด้วยการนั่งเหยียดขาตรงบนม้านั่ง จัดลำตัวให้ตั้งตรงพร้อมกับเหยียดแขนไปข้างหน้า จากนั้นให้ก้มหน้าลงเล็กน้อยและโน้มตัวไปข้างหน้าช้า ๆ จนรู้สึกตึงที่แผ่นหลังส่วนล่าง แล้วค่อย ๆ เอนตัวกลับสู่ท่าเตรียม โดยท่านี้จะช่วยสร้างความยืดหยุ่นให้กับแผ่นหลังได้ดีเลยทีเดียว

           Bar Hanging
วิธีเพิ่มความสูง


วิธีออกกําลังเพิ่มความสูงแบบง่าย ๆ สำหรับผู้ชายที่อยากมีหุ่นน่ามอง (6/10)
          การฝึกท่าโหนบาร์ที่ถูกต้อง สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งและความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อช่วงลำตัวได้ดี เริ่มโดยการยืนตัวตรงเท้าชิดและกระโดดจับบาร์ให้มั่น โดยวางมือให้กว้างเท่าหัวไหล่ แล้วห้อยตัวค้างไว้ประมาณ 20 วินาที

           Table Top

วิธีเพิ่มความสูง


วิธีออกกําลังเพิ่มความสูงแบบง่าย ๆ สำหรับผู้ชายที่อยากมีหุ่นน่ามอง (7/10)
          จัดท่าเตรียมสำหรับท่า Table Top ด้วยการนั่งลงและวางมือทั้งสองข้างที่พื้นให้แขนเหยียดตรง พร้อมกับตั้งเข่าให้ชัน เมื่อพร้อมแล้ว ให้ออกแรงยกตัวขึ้นช้า ๆ จนแผ่นหลังขนานกับพื้น ค้างไว้ประมาณ 20 วินาที ซึ่งท่าออกกำลังดังกล่าวจะช่วยยืดกล้ามเนื้อลำตัวและขาไปในคราวเดียวกัน

           Downward Facing Dog
วิธีเพิ่มความสูง


วิธีออกกําลังเพิ่มความสูงแบบง่าย ๆ สำหรับผู้ชายที่อยากมีหุ่นน่ามอง (8/10)
          ท่าออกกำลังท่านี้จะช่วยยืดกล้ามเนื้อในร่างกายได้หลายส่วนไปพร้อม ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น แผ่นหลัง ขา แขน ไหล่ และเท้า เริ่มจากจัดท่าเตรียมให้อยู่ในท่าคลานให้เรียบร้อย แล้วค่อย ๆ ยกตัวขึ้น จนแขนกับขาเหยียดตรง ทำค้างไว้ประมาณ 30 วินาที จึงกลับสู่ท่าเริ่มต้น

           Cat Stretch

วิธีเพิ่มความสูง


วิธีออกกําลังเพิ่มความสูงแบบง่าย ๆ สำหรับผู้ชายที่อยากมีหุ่นน่ามอง (9/10)
          ส่วนท่า Cat Stretch เริ่มต้นที่ท่าคลานเช่นเดียวกัน จากนั้นให้ยกช่วงลำตัวขึ้นจนสุดและค้างไว้สัก 10 วินาที โดยท่านี้สามารถช่วยบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องและแผ่นหลังได้เป็นอย่างดี

           Triangle Pose

วิธีเพิ่มความสูง


วิธีออกกําลังเพิ่มความสูงแบบง่าย ๆ สำหรับผู้ชายที่อยากมีหุ่นน่ามอง (10/10)
          จัดท่าเตรียมโดยการยืนตัวตรงและแยกเท้าทั้งสองข้างให้กว้างมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ พร้อมกางแขนทั้งสองข้างขึ้นเป็นเส้นตรง เมื่อพร้อมแล้ว ให้โน้มตัวด้านขวาลงช้า ๆ จนนิ้วแตะข้อเท้า ค้างไว้ประมาณ 30 วินาที จากนั้นค่อย ๆ กลับสู่ท่าเริ่มต้นและทำสลับข้าง โดยท่านี้จะช่วยยืดกล้ามเนื้อช่วงลำตัว หลัง และขาได้

          ทั้งนี้แม้ว่าท่าออกกำลังกายเหล่านี้อาจไม่การันตีผลลัพธ์ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งก็มาจากปัจจัยหลาย ๆ อย่างประกอบด้วย แต่การฝึกเป็นประจำก็ช่วยรักษาสภาพร่างกายให้แข็งแรงและช่วยให้มีสุขภาพดีตลอดเวลานั่นเอง


วิธีลดความเครียด

วันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 วิธีลดความเครียด ดนตรีบำบัด ลดความเครียดด้วยเสียงเพลง ควา...